EKP’ Chapter 1 Metsukidan – To dispel a worry – CANCEL–

มีเอนทรี่แบบเดียวกันนี้ ณ Exteen

hL3shJO

To dispel a worry – CANCEL–

——————————————

毎朝で 目が覚めるとき

一番に聞こえたのは

激しい声だった

ทุกเช้าที่ฉันลืมตาตื่นขึ้นมา

อย่างแรกที่จะได้ยินคือ

..เสียงที่เต็มไปด้วยความรุนแรง

——————————————

เด็กผู้หญิงผู้เติบโตขึ้นมาด้วยคำว่า

“ ความผิดพลาด “

บนระเบียงหน้าต่างเปิดรับเสียงพลงที่คลอมาพร้อมมสายลมร้อนพัดจนเหนียวตัว
แสงแดดยามกลางวันร้อนเป็นสีาวทำให้ดวงตาพร่ามัว จนมองอะไรไม่เห็น
จู่ๆนกร้องเสียงสูงโวยวายอย่างน่ประหลาด ราวกับว่ากำลังกรีดร้อง
โลกนี้อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้หรือาจะร้อนจนคลั่งไปแล้วก็ได้
กลิ่นคาวเหม็นฟุ้งทำให้รู้ สะอิดสะเอีดอย่างบอกไม่ถูก
มาผสมกับกลิ่นน้ำหอมที่  ยากจะพูดว่ไม่คุ้นเคย
ไม่ที่เลือกสถานที่ทำกับทุกคน ไม่เลือหน้า
อยากออกไปจากที่นี้ไปในพื้นที่  ที่ไม่มีครรู้จัก
ไม่อยากที่จะทนอยู่ ในบ้านหลังนี้  อยู่ในห้องก็เหมือนกับ
สาธารณ  หรือ  จะอยู่ที่ไหน  ก็มีแต่การพูดฉันดีเขาร้ายเสมอ
ถือเป็นข้อเสีย เรื่องปกติของมนุษย์ทั่วไปนี่า แสดงว่าปกติสุขสินะ
ในที่สุดก็ไม่เข้าใจตัวเอง มายืนบ่นพึมพำอยู่รงนี้เลยหรือจริงๆที่นกร้อง
เพราะหัวเราะ ตัวเองที่นั่งโง่ ตากแดดตอนกลงวัน ในฤดูร้อนแบบนี้กันนะ
แสงแดด ไม่ยอมลดดีกรีเหมือน โดนแสงแดดเาะเย้ยอย่างไงอย่างนั้นก็ว่าได

.

.

.

                  ในที่สุดก็ยอมแพ้กับแดดที่เหมือนคิดจะเผาตัวเองให้แห้งตายในดาบเดียว เลยต้องเดินหนีเข้าห้องของตัวเอง ปิดม่านปิดหน้าต่าง จากนั้นก็หยุดมองแดดอีกสักที่หนึ่ง ….แดดแบบนี้ควรปิดให้รอบห้องเลยดีกว่า

.

.

                                                      ตัดให้ไร้ซึ้งเนื้อใย–ว่าไปนั้น..
แต่อย่างน้อยถึงจะโกรธ แสงแดด
แต่เราก็ไม่ได้โกรธแสงไฟ.. อย่าเก็บเขาไว้ให้ไร้ประโยชน์

.

.

                  คิดได้แบบนั้นก็กวาดสายตามองไปบนชั้นวางของ กดรีโมทเพื่อเปิดไฟเพิ่มความสว่างในห้องแล้วก็เหลือบมองรีโมทแอร์อย่างมีความหวังอีกครั้ง อากาศวันนี้มันร้อนจริงๆ แต่พอจะหยิบรีโมท ภาพบางอย่างก็หวนคืนเหมือนถูกหวดโฮมรันตีสวนขึ้นมาแว่บนึง..แล้วจากไปเพื่อที่จะวิ่งให้ทั่วสนาม

.

.

                                    ……..อึ่ย …อย่าเลยดีกว่า…

.

.

                  คิดแล้วก็ถอดใจเลยจะไปหาน้ำเย็นๆดื่มสักหน่อย แต่พอเหลือบไปเห็นมือถือรุ่นทัชสกรีนรูปผลไม้ที่ทำให้หัวไอแซกโนมาแล้ว ก็กลายเป็นไอโฟนกันเลยทีเดียวค่ะ เหมือนโยนความคิดที่จะไปดับกระหายนั้นทิ้ง ตัวกลับเดินไปลูบหน้าจอมือถือนั้นเบาๆ คล้ายที่จะปลุก เพราะไม่ได้ยุ่งกับเครื่องนั้นนาน แถมหน้าจอยังดับอีก

.

.

                                       แต่โดนตอกกลับด้วยเสียงอันทรงพลัง แต่ร่าเริง อา…

.

                  ตั้งแต่แรกเจอแล้วล่ะ.. ที่ “ยูสึเกะ” พูดด้วยน้ำเสียงแบบนี้น่ะ ไม่รู้ว่าทำไม แต่จำได้แม่นยำเลยล่ะ…อา นั้นสินะคะ ใครล่ะจะลืมลง ในเมื่อ….จู่ๆก็มีไวรัสเข้ามาในไอโฟนของตัวเอง แถมยัง..พูดจาน่าอายแบบนั้นออกมาไม่หยุดอีก แถมยัง..บอกว่าตัวเองเป็นของเขาอีก..ถึงจะมารู้ที่หลังก็เถอะว่าเรียกแบบนั้นกับทุกคน ..แต่ตอนแรกรู้สึกคิโม่ยไม่เบาเลย… แต่พออยู่นานๆเข้าไป –คนเราเขาไม่ควรที่จะตัดสินใจด้วยคำพูดคำจาสินะคะ….

.

.

                                    เอ๋?  รึเปล่านะ..

.

                  จากนั้นก็โดนเสียงอันทรงพลังนั้นเรียกให้สะดุ้ง เผลอนึกย้อนอดีตเหมือนคนแก่ไปซะได้ แต่เห็นอีกฝ่ายอารมณ์ดี ชวนคุยเจื้อแจ๋วไม่หยุด อดที่จะสงสัยไม่ได้ ทั้งๆที่ตอนนี้อุณหภูมิแทบจะทำให้น้ำที่วางไว้เฉยๆเดือดได้แล้วแท้ๆยังร่าเริงได้อยู่นี่…

.

                                                      ..อากาศในนั้นท่าทางจะเย็นสินะคะ…
….ใครอิจฉาคะ..ไม่มีหรอกค่ะ……………

.

                  พอเริ่มน่าอิจฉ–… พอเริ่มคุยกันได้ไม่นาน เสียงสนทนาจากอีกฝั่งของห้องที่เพิ่งเงียบไปเมื่อครู่ก็เริ่มกลับมาอีกครั้ง เสียงคุยกันเหล่านั้นทำให้เธอต้องรีบร้อนรนที่จะเอาหมอนมาอุดหน้าจอมือถือราคาแพงที่คุยจ้อไม่หยุดด้วยความลนลาน  ถึงแม้จะรู้สึกผิด แต่เวลานี้ควรทำตัวเงียบจนเหมือนไร้ตัวตนให้มากที่สุดจะดีกว่า

.

                  การพูดคุยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน กลิ่นน้ำหอมที่ฟุ้งกระจายจนได้กลิ่นมาถึงอีกห้อง คล้ายจะปกปิดอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะสิ้นสุดด้วยเสียงเปิดประตูเดินออกมา พร้อมกับเสียงส้นสูงที่เหยียบพื้นอย่างมั่นคง

 มีเสียงของผู้หญิงที่หัวเราะอย่างแผ่วเบาคล้ายจะเนียมอายแต่ฟังแล้วทำให้ขนลุกอย่างบอกไม่ถูก แน่นอนผู้หญิงคนนั้นคงไม่ได้เป็นบ้าหัวเราะคนเดียว เสียงผู้ชายที่สอดแทรกออกมาดังกว่าฝ่ายหญิง แยกเป็นคำไม่ออกว่าพูดเรื่องอะไรกัน แต่ถึงจะฟังออกยังไง ก็ไม่อยากจะฟังอยู่ดี..

.

.

                                     อา นึกว่าจะไม่มีวันจบไม่มีวันสิ้นแล้วล่ะค่ะ

.

                  พยายามที่จะถอนหายใจให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ พยายามที่จะไม่ทำสายตาเคลือบแคลงใส่คนเป็นแม่ ถึงแม้หล่อนจะมองไม่เห็น แต่เธอรู้ว่ายังไงก็ไม่ควร เมื่อได้ยินเสียงทั้งสองคนเดินออกห่างไปเรื่อยๆจนอยู่นอกตัวบ้าน เธอจึงยื่นหน้าออกไปมอง ก็พบกับเสียงหัวเราะแหลมลั่นขึ้นมาถึงข้างในตัวบ้าน พร้อมกับภาพที่บาดตาจนต้องเบือนหน้าหนี …ดูท่าทาง คนพวกก็นั้นจะไม่รู้จัดจบไม่สิ้นกันจริงๆ..

.

                                    อย่างน้อยพวกเขาน่าจะเบื่อกันบ้าง…

                  ดึงม่านให้ชิดกันอีก พยายามลบภาพบ้าๆเมื่อกี้ออกจากความทรงจำ สุดท้ายเสียงอู้อี้คล้ายจะอึดอัดที่ดังอยู่บนโต๊ะ ก็ทำให้เธอลบภาพเมื่อกี้ได้ ใช่..เธอลืมไป ว่าปล่อยมือถือของตัวเองให้โดนหมอนกดอยู่แบบนั้น

.

.

                                                      เกือบจะได้เป็นฆาตกรซะแล้ว
…ข้อหาฆ่ามือถือตัวเองตาย นี่ต้องจำคุกกี่ปีคะ

.

                 รู้ว่าการขอโทษพร่ำเพรื่อไม่ใช่เรื่องดีนัก.. แต่การปล่อยให้มือถือตัวเองงอนก็ไม่ใช่เรื่องดีเหมือนกัน ต้องเล่นบทแม่แง่พ่องอนอยู่นาน กว่าจะกล่อมให้อีกฝ่ายอารมณ์ดีขึ้นได้ ก็เล่นซะเธอเหนื่อย..

.

ท้องฟ้าที่แผ่แสงแดดแรงขึ้น จักจั่นที่แผดเสียงร้องดังขึ้น ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเวียนหัว ลำคอรู้สึกขาดน้ำไปชั่วขณะ.. เธอควรไปหาน้ำดื่มจริงๆ.. แต่ตั้งแต่แรกแล้วนี่นาที่เธอจะหาน้ำดื่มน่ะ

.

                                                 แต่เธอไม่อยากจะออกไปเจอ..

……คุณพ่อ..
ตอนนี้ท่านคงอารมณ์เสียแน่ๆ เมื่อคนเป็นภรรยาของเขา……

.

.

.

                  อา เผลอกัดริมฝีปากอีกแล้ว ชักจะติดเป็นนิสัยเสียซะแล้วสิ.. ไม่เข้าใจตัวเองว่าจะคิดมากทำไม นี่มัน..ไม่ใช่เรื่องของเธอเลยนี่นา แต่ถ้าเธอออกไปตอนนี้คงโดนพาลอารมณ์เสียใส่แน่ๆ..

.

.

ถึงจะดีใจที่มีเพื่อนใหม่เข้าในชีวิต
แต่ความสุขนั้นก็เป็นเพียงแค่ความสุขชั่ววูบ
ในเมื่อคุณแม่ที่คลอด“เรา”ออกมา คิดภาพเราแต่ในแง่ลบ
อา อย่าว่าแต่คุณแม่เลย แม้แต่คนในสายเลือดก็ยัง…
ความสุข20เปอร์เซ็น ความทุกข์ทวีคูณไป 10เปอร์เซ็น

น้ำตาที่แห้งเหือด หลั่งไปยังไงก็ไม่มีวันได้กลับคืนมา

.

                  เมื่อเธอซ่อนน้ำตาไม่มิด…ไวรัสหนุ่มในไอโฟนดูจะร้อนรนเมื่อเห็นน้ำตาของเธอ เขาเสนอ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเรื่องอะไร ว่าไม่ลองออกไปเล่นข้างนอกปรับอารมณ์ดูหน่อยเหรอ?

.

ในตอนนั้นคันนะก็ไม่ได้รู้เลยว่า
ประโยคพูดที่ยูสึเกะชักชวนเธอออกไปข้างนอก
จะเกิดเหตุการณ์ที่สามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตของเธอ
โดยการนำพาเธอไปพบกับหญิงสาวคนหนึ่ง..
ซึ่งผู้หญิงคนนั้น

.

เด็กผู้หญิงผมสีชบาอ่อนที่มัดรวบไว้เป็นก้อนดังโงะ
เด็กผู้หญิงที่ดูๆเป็นคนธรรมดาทั่วไป
แต่สีตาของเธอคนนั้น

กลับเป็นสีแดง

その名前は
小さな 克己 だった

ชื่อของเธอ
จิซานะ คาสึมิ

——————————————

P.S.1 บทย่อแรก..ตั้งใจจะพิมพ์ไม่ให้งงๆเนื้อหา
P.S.2 มีข้อความซ่อนอยู่ในย่อแรก..สาเหตุของP.S.1

Leave a comment